อนุทินที่ 5
กิจกรรมที่ 1 กาเครื่องหมายถูก (/) หรือกากบาทผิด (x) ลงหน้าข้อที่ถูกต้อง
__x__ 1. การศึกษาภาคบังคับคือ
การให้เด็กเข้าเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี
__/__ 2. เกณฑ์บังคับเด็กที่มีอายุย่างเข้าปีที่
6 จนกระทั่งอายุย่างเข้าปีที่ 16
__/__ 3. บุคคลที่มีหน้าที่ประกาศให้ส่งเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนคือ
คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาหรือ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วแต่กรณี
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วแต่กรณี
__/__ 4. ใบประกาศให้ส่งเด็กเข้าโรงเรียนต้องปิดประกาศไว้ที่สถานศึกษาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
แล้วแต่กรณี
แล้วแต่กรณี
__/__ 5. ผู้มีหน้าที่ส่งเด็กเข้าโรงเรียนคือ
บิดามารดาหรือผู้ปกครองที่ทำหน้าที่ดูแลเด็ก
__x__ 6. ผู้ซึ่งมิใช่ผู้ปกครองมีเด็กที่ไม่ได้เข้าโรงเรียนอาศัยอยู่ด้วยต้องแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภายใน
15 วัน
15 วัน
__/__ 7. ผู้ปกครองที่มีเด็กอยู่ในเกณฑ์บังคับไม่ส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาต้องระวางโทษปรับไม่เกิน
1,000 บาท
1,000 บาท
__/__ 8. หน่วยงานอบต.มีหน้าที่ประกาศให้ส่งเด็กเข้าโรงเรียน
__/__ 9. ที่ทำการเทศบาลมิใช่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นจึงไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
__/_ 10. ผู้มีอำนาจผ่อนผันให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์บังคับคือ
สถานศึกษา
_x__ 11. ผู้ใดมิใช่ผู้ปกครองมีเด็กซึ่งมิได้เข้าเรียนในสถานศึกษาอาศัยอยู่ด้วยต้องแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายใน 2 เดือนนับแต่เด็กมาอาศัยอยู่
การศึกษาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายใน 2 เดือนนับแต่เด็กมาอาศัยอยู่
__x_ 12. ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน
10,000 บาท
10,000 บาท
กิจกรรมที่ 2 จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับไม่ใช่บังคับในกรุงเทพมหานครเพราะเป็นเขตที่เจริญแล้วใช่หรือไม่
เพราะเหตุผลใด
เพราะเหตุผลใด
ตอบ ไม่ใช่ เพราะการศึกษาภาคบังคับ เป็นกฎหมายที่มีใช้ทั่วประเทศ
ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับ
การศึกษาภาคบังคับ ไม่ว่ากรณีใด หรือเขตพื้นที่ใดก็ต้องปฏิบัติตามเหมือนกันอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม
การศึกษาภาคบังคับ ไม่ว่ากรณีใด หรือเขตพื้นที่ใดก็ต้องปฏิบัติตามเหมือนกันอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม
2. เด็กสมชายเกิดพ.
ศ. 2549 เข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับในปีการศึกษาใดมีอายุเท่าใด
ตอบ เริ่มเข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับในปี พ.ศ. 2555 ด้วยอายุ 6 ปี
3. รายละเอียดของการประกาศส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษามีหลักเกณฑ์อย่างไร
ตอบ ให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
แล้วแต่กรณี
ประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาและการจัดสรรโอกาสเข้าศึกษาต่อระหว่างสถานศึกษาที่อยู่ในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับโดยให้ปิดประกาศไว้
ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถานศึกษา
ฟังรวมทั้งต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ปกครองของเด็กทราบก่อนเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า
1 ปี
4. ผู้ปกครองที่นำเด็กมาอุปการะเลี้ยงดูกฎหมายบังคับให้ผู้ที่เด็กอาศัยอยู่ทำอย่างไร
ตอบ ผู้ใดซึ่งมิใช่ผู้ปกครอง
มีเด็กซึ่งไม่ได้เข้าเรียนในสถานศึกษาอาศัยอยู่ด้วยต้องแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
แล้วแต่กรณี ภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่เด็กมาใสอยู่
เว้นแต่ผู้ปกครองได้อาศัยอยู่ด้วยกับผู้นั้นการแจ้งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
(มาตรา 11)
5. บทลงโทษตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับพ.ศ
2544 กล่าวอย่างไร
ตอบ 1. ลงโทษผู้ปกครองที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา๖ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน
1,000 บาท
2. ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา
9 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
3. ผู้ใดโดยปราศจากเหตุอันควรกระทำด้วยประการใด
ๆ อันเป็นเหตุให้เด็กไม่ได้เรียนในสถานศึกษาตามพระราชบัญญัตินี้ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน
10,000 บาท
4. ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา
11 หรือแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000
บาท
กิจกรรมที่ 3 จงเติมคำลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
1. การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนกลางในกระทรวงศึกษาธิการแบ่งออกเป็น
3 ส่วน ได้แก่
1. ระเบียบบริหารราชการในส่วนกลาง
2. ระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา
3. ระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาและบัตรระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
2. ส่วนราชการที่ทำหน้าที่ประสานงานส่วนต่าง
ๆ ในกระทรวงศึกษาธิการคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
3. ส่วนราชการที่ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีคือ
สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
4. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาประกอบด้วย
ผู้แทนองค์กรชุมชน ผู้แทนองค์กรเอกชน ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพครู ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพการบริหารการศึกษา
ผู้แทนสมาคมผู้ปกครองและครูและผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม
5. ผู้บังคับบัญชาครูในสถานศึกษาคือ
ผู้อำนวยการสถานศึกษา
6. องค์กรบริหารส่วนบุคคลของข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัยเรียกโดยย่อว่า
สถาบันอุดมศึกษานอกระบบ
7. ถ้าผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษามอบอำนาจให้ผู้ปฏิบัติราชการแทนเรื่องหนึ่งเรื่องใดต้องมอบอำนาจให้
ข้าราชการในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้อำนวยการสถานศึกษา
หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นในเขตพื้นที่การศึกษาที่ตนรับผิดชอบได้ตามระเบียบที่คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษากำหนด
8. เมื่อผู้อำนวยการสถานศึกษาต้องไปราชการในต่างจังหวัดเป็นเวลา
7 วันต้องมอบอำนาจให้ข้าราชการครูใน
สถานศึกษา มอบอำนาจให้ข้าราชการในสถานศึกษาหรือในหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นได้ตามระเบียบที่คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษากำหนด
สถานศึกษา มอบอำนาจให้ข้าราชการในสถานศึกษาหรือในหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นได้ตามระเบียบที่คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษากำหนด
9. ผู้อำนวยการเขตการศึกษาติดราชการมอบให้รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาไปเป็นประธานในพิธีเปิดงานสัปดาห์วันสุนทรภู่การมอบงานในกรณีเรียกว่า
การปฏิบัติราชการแทน
10. การมอบอำนาจให้ผู้อื่นปฏิบัติราชการแทนตนต้อง
กำกับติดตามผลการปฏิบัติราชการของผู้รับมอบอำนาจ
และให้ผู้มีอำนาจแนะนำและแก้ไขการปฏิบัติราชการของผู้รับมอบอำนาจได้
และให้ผู้มีอำนาจแนะนำและแก้ไขการปฏิบัติราชการของผู้รับมอบอำนาจได้
กิจกรรมที่ 4 จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. หน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการมีอะไรบ้าง
ตอบ กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานราชการไทยประเภทกระทรวง
มีหน้าที่ส่งเสริมการศึกษาให้กับประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
สร้างความเสมอภาคและโอกาสทางการศึกษา ส่งเสริมให้หน่วยงานต่าง ๆ
ได้มีส่วนร่วมทางการศึกษา ส่งเสริมการศึกษาวิชาชีพให้เอกชนมีส่วนร่วมในการศึกษา
เน้นให้นิสิตนักศึกษามีโอกาสศึกษาต่อสูงขึ้นทั้งในท้องถิ่นและสถาบันเปิด
เน้นการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้บริการแก่สังคม พัฒนาบุคลากรทางการศึกษา
ส่งเสริมผู้ที่มีความสามารถพิเศษให้ได้เรียนและแสดงออกในทางที่เหมาะสม
2. ส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากรมในกระทรวงศึกษาธิการมีอะไรบ้าง
ตอบ สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
3. การแบ่งส่วนราชการภายในเขตพื้นที่มีหลักเกณฑ์อย่างไร
ตอบ 1. สอดคล้องกับภารกิจและรองรับการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาจากกระทรวง
ศึกษาธิการ
ศึกษาธิการ
2. มีความเป็นเอกภาพในการบริหารจัดการ มีความยืดหยุ่น
และพร้อมต่อการปรับเปลี่ยน
3. มุ่งสัมฤทธิ์ผลตามภารกิจความคุ้มค่า ลดขั้นตอนการบริหาร
เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการบริหารจัดการ
4. คำนึงระดับ ประเภท ปริมาณและคุณภาพสถานศึกษา ผู้รับบริการและความเหมาะสม
4. การแบ่งส่วนราชการในสถานศึกษากำหนดไว้อย่างไร
ตอบ มาตรา 36 ให้สถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญา
เป็นนิติบุคคลและอาจจะเป็นส่วนราชการหรือเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ
ยกเว้นสถานศึกษาเฉพาะทางตามมาตรา 21 ให้สถานศึกษาดังกล่าวดำเนินกิจการได้โดยอิสระ
สามารถพัฒนาระบบบริหารและการจัดการที่เป็นของตนเอง มีความคล่องตัว มีเสรีภาพทางวิชาการ
และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสภาสถานศึกษา
มาตรา 45 ให้สถานศึกษาเอกชนจัดการศึกษาได้ทุกระดับและทุกประเภทการศึกษา
ตามที่กฎหมายกำหนด โดยรัฐต้องกำหนดนโยบายและมาตรการที่ชัดเจนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของเอกชนในด้านการศึกษา
ให้สถานศึกษาของเอกชนที่จัดการศึกษาระดับปริญญาดำเนินกิจการได้โดยอิสระ
สามารถพัฒนาระบบบริหารและการจัดการที่เป็นของตนเอง มีความคล่องตัว
มีเสรีภาพทางวิชาการ และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสภาสถานศึกษา
5. การมอบอำนาจให้บุคคลอื่นปฏิบัติราชการแทนมีหลักเกณฑ์อย่างไร
ตอบ มาตรา 38 อำนาจในการสั่งการอนุญาต การอนุมัติ
การปฏิบัติราชการ หรือการดำเนินการ สิ่งที่ผู้ดำรง
ตำแหน่งใดจะพึงปฏิบัติหรือดำเนินการตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งใด หรือมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องใดร่างกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง หนังสือมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องนั้นมิได้กำหนดเรื่องการมอบอำนาจไว้เป็นอย่างอื่นหรือมิได้ห้ามเรื่องการมอบอำนาจไว้ผู้ดำรงตำแหน่งนั้นอาจมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นในส่วนราชการเดียวกันหรือส่วนราชการอื่นการมอบอำนาจให้ทำเป็นหนังสือ
ตำแหน่งใดจะพึงปฏิบัติหรือดำเนินการตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งใด หรือมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องใดร่างกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง หนังสือมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องนั้นมิได้กำหนดเรื่องการมอบอำนาจไว้เป็นอย่างอื่นหรือมิได้ห้ามเรื่องการมอบอำนาจไว้ผู้ดำรงตำแหน่งนั้นอาจมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นในส่วนราชการเดียวกันหรือส่วนราชการอื่นการมอบอำนาจให้ทำเป็นหนังสือ
มาตรา 39 เมื่อมีการมอบอำนาจแล้วผู้รับมอบอำนาจมีหน้าที่ต้องรับมอบอำนาจนั้น
โดยผู้มอบอำนาจจะ
กำหนดให้ผู้รับมอบอำนาจมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นปฏิบัติราชการแทนต่อไป โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการใช้อำนาจนั้นไว้ด้วยหรือไม่ก็ได้
กำหนดให้ผู้รับมอบอำนาจมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นปฏิบัติราชการแทนต่อไป โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการใช้อำนาจนั้นไว้ด้วยหรือไม่ก็ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น