แบบฝึกหัดที่
2
1. ใครเป็นผู้ขอพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก และมีเหตุผลอย่างไร
และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา เป็นอย่างไร อธิบาย
ตอบ คณะราษฎร์เป็นผู้ขอพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก
เหตุผลที่ขอพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก คณะราษฎร์เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประธิปไตยได้กล่าวไว้ว่า
“บัดนี้การศึกษาสูงขึ้นแล้ว มีข้าราชการประกอบด้วยวุฒิปรีชาในรัฐภิบาล
นโยบายสามารถนำประเทศของตนในอันที่จะก้าวหน้าไปสู่สากลอารยธรรมแห่งโลกโดยสวัสดี
สมควรแล้วที่จะพระราชทานพระบรมวโรกาส ให้ข้าราชการและประชาชนของพระองค์
ได้มีส่วนมีเสียงตามความเห็นเห็นชอบในการจรรดลงประเทศสยามให้วัฒนาการในภายภาคหน้า”
2. แนวนโยบายแห่งรัฐในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ของรัฐธรรมนูญฯ
พุทธศักราช 2492 ได้กำหนดอย่างไร อธิบาย
ตอบ หมวด 5 แนวนโยบายแห่งรัฐในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ดังนี้
มาตรา 62
การศึกษาอบรมพึงมีจุดประสงค์ที่จะให้ชนชาวไทยเป็นพลเมืองดี
มีร่างกายแข็งแรง และอาณามัยสมบูรณ์ มีความรู้ ความสามารถที่จะประกอบอาชีพ
และมีจิตใจเป็นนักประชาธิปไตย
มาตรา 63 การส่งเสริมบำรุงการศึกษาอบรม
การจัดระบบการศึกษาอบรมเป็นหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะสถานศึกษาทั้งปวงย่อมอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐ
การอบรมชั้นอุดมศึกษา
รัฐพึงจัดการให้สถานศึกษาดำเนินกิจการของตนเองได้ภายในขอบเขตที่กฎหมายบัญญัติ
มาตรา 64 การศึกษาอบรมชั้นประถมศึกษาของรัฐและเทศบาล
ที่จะต้องจัดให้โดยไม่คิดค่าเล่าเรียน รัฐพึงช่วยเหลือให้มีอุปกรณ์การศึกษาอบรมตามสมควร
มาตรา 65 รัฐพึงสนับสนุนการค้นคว้าในทางศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
3. เปรียบเทียบแนวนโยบายแห่งรัฐประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของรัฐธรรมนูญ
ฯ พุทธศักราช 2511 พุทธศักราช 2517 และพุทธศักราช
2521 เหมือนหรือต่างกันอย่างไร อธิบาย
ตอบ แนวนโยบายแห่งรัฐประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของรัฐธรรมนูญ
ฯ พุทธศักราช 2511
พุทธศักราช 2517 และพุทธศักราช 2521 มีความแตกต่างกัน เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนไป ดังนี้
รัฐธรรมนูญ ฯ
พุทธศักราช 2517
ได้กำหนดไว้ดังนี้
มาตรา 59 การส่งเสริมบำรุงการศึกษาอบรม
การจัดระบบการศึกษาอบรมเป็นหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะสถานศึกษาทั้งปวงย่อมอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐ
การอบรมชั้นอุดมศึกษา
รัฐพึงจัดการให้สถานศึกษาดำเนินกิจการของตนเองได้ภายในขอบเขตที่กฎหมายบัญญัติ
มาตรา 60 การศึกษาอบรมชั้นประถมศึกษาของรัฐและเทศบาล
ที่จะต้องจัดให้โดยไม่คิดค่าเล่าเรียน รัฐพึงช่วยเหลือให้มีอุปกรณ์การศึกษาอบรมตามสมควร
มาตรา 61 การศึกษาอบรมชั้นประถมศึกษาของรัฐและเทศบาล
ที่จะต้องจัดให้โดยไม่คิดค่าเล่าเรียน รัฐพึงช่วยเหลือให้มีอุปกรณ์การศึกษาอบรมตามสมควน
รัฐธรรมนูญ ฯ พุทธศักราช 2517 ได้กำหนดไว้ดังนี้
มาตรา 72 รัฐพึงส่งเสริมและบำรุงการศึกษาอบรม
การจัดระบบการศึกษาอบรมเป็นหน้าที่ของรัฐ
โดยเฉพาะสถานศึกษาทั้งปวงย่อมอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐ
การศึกษาอบรมขั้นอุดมศึกษา
รัฐพึงจัดการให้สถานศึกษาดำเนินกิจการของตนเองภายในขอบเขตที่กฎหมายบัญญัติ
สถานศึกษาของรัฐและของท้องถิ่น
พึงให้ความเสมอภาคแก่บุคคล ในการเข้ารับการศึกษาอบรมตามความสามารถของบุคคลนั้น ๆ
มาตรา 73 การศึกษาอบรมภาคบังคับในสถานศึกษาของรัฐและของท้องถิ่น
จะต้องจัดให้โดยไม่เก็บค่าเล่าเรียน รัฐพึงช่วยเหลือผู้ยากไร้ให้ได้รับทุนและปัจจัยต่าง
ๆ ในการศึกษาอบรมทุกระดับตามสมควร
จากบทบัญญัติในมาตราดังกล่าว
จะเห็นว่ามีสาระเช่นเดียวกับมาตรา 63 และมาตรา 64 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2492 ดังได้กล่าวมาแล้ว
แต่ได้เพิ่มเติมเรื่องความเสมอภาคแก่บุคคลในการเข้ารับการศึกษาอบรมตามความสามารถของแต่ละบุคคลและได้ขยายแนวนโยบายที่จะช่วยเหลือให้นักเรียนได้อุปกรณ์การศึกษา
เพราะอาจเป็นเงินทุนการศึกษาหรือปัจจัยอย่างอื่นที่ใช้ในการศึกษาอบรม
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2521
ได้กำหนดแนวนโยบายแห่งรัฐในด้านการศึกษาไว้ในมาตรา 60
และมาตรา 62 ดังนี้
มาตรา 60
รัฐพึงส่งเสริมและบำรุงการศึกษาอบรมและการฝึกอาชีพตามความเหมาะสมและความต้องการของประเทศ
การจัดการศึกษาอบรมเป็นหน้าที่ของรัฐ
โดยเฉพาะสถานศึกษาทั้งปวง ย่อมอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ
รัฐพึงช่วยเหลือผู้ยากไร้ให้ได้รับทุนและปัจจัยต่าง
ๆ ในการศึกษาอบรม และการฝึกอาชีพ
การศึกษาอบรมภาคบังคับในสถานศึกษาของรัฐ
จะต้องจัดให้โดยไม่เก็บค่าเล่าเรียน
การศึกษาอบรมขั้นอุดมศึกษา
รัฐพึงจัดให้สถานศึกษาดำเนินกิจการของตนเองได้โดยอิสระภายในขอบเขตที่กฎหมายบัญญัติ
มาตรา 62 รัฐพึงสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาเยาวชนของชาติ
ให้เป็นผู้มีความสมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา
เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมและเพื่อความมั่นคงของรัฐ
จะเห็นได้ว่ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ฉบับนี้ได้รวบรวมหลักสำคัญของแนวนโยบายการศึกษาที่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับก่อน
ๆ มาไว้ในมาตราเดียวกัน จึงเหมือนกับว่านำมาตรา 72 และมาตรา 73 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2517
ที่กล่าวมาแล้ว มารวบรวมไว้ในมาตรา 60
แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2521
เพียงแต่ได้ขยายความไว้ในวรรคแรกว่า "รัฐพึงส่งเสริมและบำรุงการศึกษาอบรม
และการฝึกอาชีพตามความเหมาะสมและความต้องการของประเทศ" จึงเห็นได้ว่า
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับนี้ได้มีแนวนโยบายในด้านการฝึกอาชีพเพิ่มขึ้นมาด้วย
ส่วนในมาตรา 62
ได้บัญญัติถึงแนวนโยบายการพัฒนาเยาวชนให้เป็นผู้มีความสมบูรณ์ทางร่างกาย จิตใจ
และสติปัญญา เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมและเพื่อความมั่นคงของรัฐก็ถือว่าเน้นการพัฒนาด้านร่างกาย สุขภาพอนามัย
ด้านจิตใจ สติปัญญา เหมือนกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2492 จึงทำให้นโยบายด้านการศึกษาของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ฉบับนี้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
4. ประเด็นที่ 1 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2475-2490
ประเด็นที่ 2 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2549-2517
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร อธิบาย
ตอบ ประเด็นที่ 1 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2475-2490 และประเด็นที่ 2
รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2492-2517 มีความแตกต่างกันตรงที่
ประเด็นที่ 1 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2475-2490 กล่าวถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาไม่มากนัก มีมาตราที่เกี่ยวข้อง
เพียง 1 หมวด 1 มาตรา
โดยกล่าวถึงสิทธิและเสรีภาพ ในการพูด การเขียน การศึกษาอบรม การประชุมโดยเปิดเผย
การตั้งสมาคม การอาชีพ อย่างรวมๆ แต่ประเด็นที่ 2 รัฐธรรมนูญฯ
พุทธศักราช 2492-2517 กล่าวถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
โดยละเอียดมากขึ้น โดยเขียนแบ่งออกเป็น 2 หมวด 5 มาตรา แต่ละมาตราจะเขียนกำกับไว้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า
บุคคลจะมีสิทธิและเสรีภาพได้แค่เพียงขั้นไหน
และยังได้กล่าวถึงนโยบายที่รัฐจะต้องให้การสนับสนุนทางการศึกษาเพิ่มขึ้น
5. ประเด็นที่ 3 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2521-2534
ประเด็นที่ 4 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช
2540-4550 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
อธิบาย
ตอบ ประเด็นที่ 3 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2521-2534 และประเด็นที่ 4
รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2540-2550 มีความเหมือนกันค่อนข้างมาก
แต่จะแตกต่างกันตรงที่ ประเด็นที่ 4 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2540-2550
ได้มีการกล่าวถึงการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการจัดในทุกระดับและทุกรูปแบบให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
จัดให้มีแผนการศึกษาแห่งชาติ กฎหมายเพื่อพัฒนาการศึกษาของชาติ
จัดให้มีการพัฒนาคุณภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ก้าวหน้าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก
รวมทั้งปลูกฝังให้ผู้เรียนมีจิตสำนึกของความเป็นไทย มีระเบียบวินัย
คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม
และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
และยังได้กล่าวถึง
การส่งเสริมและสนับสนุนการกระจายอำนาจเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ชุมชนองค์การทางศาสนา และเอกชน
จัดและมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนามาตรฐานคุณภาพการศึกษาให้เท่าเทียมและสอดคล้องกับแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐเพิ่มขึ้น
6. เหตุใดรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับจะต้องระบุในประเด็นที่รัฐจะต้องจัดการศึกษาอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง
อธิบาย
ตอบ เพราะหากรัฐไม่ได้ระบุถึงการจัดการศึกษาที่เป็นธรรมและทั่วถึงแล้ว
จะทำให้คนในประเทศเกิดความเหลื่อมล้ำกันทางการศึกษา
บุคคลกลุ่มหนึ่งจะได้รับความรู้ความก้าวหน้าในด้านต่างๆ รอบตัวตลอดเวลา
แต่บุคคลอีกกลุ่มหนึ่งจะไม่สามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นได้เลย
หากรัฐไม่เข้ามาช่วยเหลือและเปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านั้นได้รับการศึกษาอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม
7. เหตุใดรัฐจึงต้องกำหนด “บุคคลมีหน้าที่รับการศึกษาอบรมตามเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ”
จงอธิบาย หากไม่ปฏิบัติจะเกิดอะไรขึ้น
ตอบ เมื่อรัฐมีการกำหนดให้บุคคลทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพทางการศึกษาแล้ว
รัฐจะต้องมีการกำกับเงื่อนไข และวิธีการที่กฎหมายบัญญัติขึ้นควบคู่ไว้ด้วย
เพื่อป้องกันการศึกษาที่ไม่เหมาะสม ไม่ถูกไม่ควร อันจะส่งผลกระทบต่อประเทศชาติไปในทางที่ไม่ดี
หากมีบุคคลทำการศึกษาและให้ความจิงจังในการลงมือปฏิบัติ
หรือการรวมกลุ่มกันเพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง
8. การจัดการศึกษาที่เปิดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาหากเราพิจารณารัฐธรรมนูญมีฉบับใดบ้างที่ให้องค์กรส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วม
และถ้าเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมมากขึ้นท่านคิดว่าเป็นอย่างไร
ตอบ หากมีการเปิดโอกาสให้องค์กรปกครองท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษามากขึ้น
จะส่งผลให้คนในประเทศได้รับการศึกษาที่เท่าเทียมกัน และมีความทั่วถึงยิ่งขึ้น
เพราะในส่วนของรัฐเอง
คงจะไม่สามารถที่จะลงมาให้ความช่วยเหลือกับบุคคลที่อยู่ในส่วนท้องถิ่นได้อย่างเต็มที่
แต่หากมีการกระจายอำนาจให้คนในพื้นที่ได้ช่วยเหลือดูแลกันในด้านการศึกษาจะทำให้บุคคลที่อยู่ในท้องถิ่นได้รับผลประโยชน์ที่ทั่วถึงมากกว่า
9. เหตุใดการจัดการศึกษา รัฐต้องคุ้มครองและพัฒนาเด็กและเยาวชน
ส่งเสริมความเสมอภาคทั้งหญิงและชาย พัฒนาความเป็นปึกแผนของครอบครัว
และความเข็มแข็งของชุมชนสังเคราะห์ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพและผู้ด้อยโอกาส
จงอธิบาย
ตอบ เพื่อให้ทุกคนในประเทศได้รับความเท่าเทียมกันทุกคน
แม้ว่าบุคคลเหล่านั้นจะมีสถานภาพทางสังคมที่ด้อยกว่าผู้อื่น
หรือมีวุฒิภาวะที่แตกต่างกันก็ตามทุกคนล้วนมีสิทธิและเสรีภาพ
รัฐจึงต้องเข้าไปช่วยเหลือและให้ความคุ้มครอง
พัฒนาและส่งเสริมให้มากขึ้นยิ่งกว่าบุคคลปกตินั้นเอง
10. ผลการจัดการศึกษาที่ผ่านมาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
มีผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ ผลจากการจัดการศึกษาที่ผ่านมาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
มีผลต่อการพัฒนาประเทศคือ ประชาชนได้รับการศึกษา
ได้มีความรู้ในการประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้คนในชาติ
ได้ทำให้ประชาชนมีการเปิดกว้างทางการศึกษาในการพบบุคคลประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ที่มี
ส่งเสริมให้มีการปฏิบัติได้จริงมากยิ่งขึ้น
ทำให้ได้รับความรู้เชิงประสบการณ์มากกว่าการศึกษาแต่ภายในห้องเรียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น